ศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ในฤดูกาลนี้ออกสตารท์ได้ย่ำแย่ อีกทั้งจำเป็นต้องเก็บชัยชนะนัดนี้ให้ได้ โดยคู่ต่อคือ ลิเวอร์พูล แชมป์เมื่อฤดูกาลก่อน สำหรับฝังการเล่นของเจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนวางผัง 4-2-3-1
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เริ่มเกมมาไม่ถึงนาที ลิเวอร์พูลน่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างมากที่สุด
เพราะบอลที่สาดยาวมานั้นข้ามแนวรับของแมนซิตี้หมดแล้ว แต่เฟอร์มิโน่ดันเลือกจิ้มบอลแล้วพาบอลไปมุมแคบ โดยไม่เลือกยิงหรือกระดกบอลซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่า หลังจากนั้นลิเวอร์พูลที่ครองเกมมากกว่า จนกระทั่งมาได้ลูกจุดโทษในนาทีที่ 10 จากจังหวะฟาวล์ของวอล์คเกอร์ ซึ่งเป็นจังหวะที่ได้ไม่คุ้มเสีย เพราะยังมีแนวรับยืนซ้อนอยู่หลายคน ก่อนที่ซาลาห์จะยิงขึ้นนำ 0-1
หลัง 20 นาทีผ่าน แมนซิตี้เป็นฝ่ายครองเกมบ้าง จนนำมาสู่ประตูตีเสมอ 1-1 โดยจังหวะดังกล่าวริมเส้นฝั่งซ้ายของลิเวอร์พูลเปิดพื้นที่มากเกินไป รวมถึงเปิดช่องให้เดอ บรอยน์ ได้จ่ายต่อไปยังเฆซุส ยิงประตูตีเสมอ ซึ่งจังหวะการยิงของกองหน้าชาวบราซิลนับว่ายอดเยี่ยม เพราะจังหวะจับบอลของเขากลายเป็นการหลอกคู่แข่งจนมีช่องได้ยิง
ก่อนจบครึ่งแรก แมนซิตี้ มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ผู้ตัดสินมองว่า โกเมชกางแขนเพื่อทำตัวให้ใหญ่ขึ้น โดยจังหวะการยิงจุดโทษของเดอ บรอยน์ เห็นได้ชัดนักเตะขาดความมั่นใจ ดังจะเห็นได้จากการที่เจ้าตัวยิงแบบเน้นมุมมากเกินไป ทำให้บอลพุ่งออกหลัง
เริ่มครึ่งหลัง แดนกลางของลิเวอร์พูลดูจะหลวมๆไป ทำให้ดูเหมือนว่าบอลบุกของแมนซิตี้พุ่งเข้าหา 4 แผงหลังของลิเวอร์พูลได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีจังหวะหวาดเสียว โชคดีที่ว่าแมนซิตี้เปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้
ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม ทั้งสองทีมดูจะหมดพลังงานไป เนื่องจากการลงเล่นโปรแกรมรายการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยฝั่งของลิเวอร์พูลจะออกอาการชัดเจนกว่า เพราะเยอร์เก้น คล็อปป์ เองก็มองแล้วว่าการเก็บอย่างน้อย 1 แต้ม แล้วไม่มีตัวเจ็บเพิ่ม ถือว่าทีมบรรลุเป้าหมายในการบุกมาเยือนครั้งนี้
บทสรุปจากเกมนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมรุกเล่นได้ดีจนมีโอกาสคว้า 3 แต้มแต่พลาดไป ขณะที่แนวรับกลายเป็นปัญหาอีกครั้ง ซึ่งการคว้า 1 คะแนนในเกมนี้ถือว่าเสียหายเล็กน้อย เพราะไม่สามารถตัดแต้มคู่แข่งโดยตรงได้ ส่วนลิเวอร์พูลในวันนี้เล่นได้ตามมาตรฐาน ซึ่งการที่ตัวผู้เล่นบาดเจ็บเยอะ อีกทั้งต้องลงเล่นในโปรแกรมที่ถี่ยิบ แต่ไม่แพ้แมนซิตี้ถือว่าไม่ขาดทุน
ติดตามข่าวฟุตบอลต่างประเทศ เว็บคาสิโนออนไลน์และติดตามคริสเตียน อีริคเซ่น โอกาสย้ายรังสูงหลังเนื้อหอมสองทีมใหญ่ลีกผู้ดีพร้อมเปย์สัญญา
